สรุปหนังสือ The Intelligent Investor

The Intelligent Investor โดย Benjamin Graham ถือเป็นหนึ่งในหนังสือการลงทุนที่สำคัญและมีอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ Graham ซึ่งถือเป็นบิดาแห่งการลงทุนแบบ Value Investing ได้แนะนำแนวทางการลงทุนที่มุ่งเน้นความปลอดภัยและความมั่นคงของเงินทุน หนังสือเล่มนี้เป็นการนำเสนอหลักการและกลยุทธ์ที่สามารถช่วยให้นักลงทุนทั่วไปสามารถประสบความสำเร็จในระยะยาว

5 ข้อคิดดีๆจาก The Intelligent Investor

1. “การลงทุนที่ฉลาดคือการไม่พยายามทำนายอนาคต แต่เป็นการรับมือกับปัจจุบันด้วยความระมัดระวังและความมุ่งมั่น.”
2. “ความปลอดภัยของเงินทุนคือการมองหาความเสี่ยงที่ต่ำและผลตอบแทนที่สูง แต่ต้องไม่ลืมที่จะปกป้องตนเองจากความไม่แน่นอนของตลาด.”
3. “มูลค่าที่แท้จริงของการลงทุนคือการมองหาบริษัทที่มีความมั่นคงและมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต โดยไม่ถูกล่อลวงจากความผันผวนของราคาในตลาด.”
4. “การลงทุนไม่ใช่เกมของความเร็วและความแม่นยำ แต่เป็นการวิ่งมาราธอนที่ต้องการความอดทนและความคิดรอบคอบ.”
5. “นักลงทุนที่ฉลาดไม่ใช่ผู้ที่ชนะตลาดเสมอไป แต่คือผู้ที่สามารถรักษาความมั่นคงของเงินทุนและผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลในระยะยาว.”

ความเป็นมาของ Benjamin Graham

Benjamin Graham เกิดในปี 1894 ที่ลอนดอน และย้ายมาอยู่ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยังเด็ก หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เขาได้เริ่มต้นการทำงานในวงการการเงินและการลงทุน Graham ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะนักคิดค้นทฤษฎีการลงทุนที่เป็นที่มาของการลงทุนแบบ Value Investing ซึ่งเน้นการหามูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์

พื้นฐานของการลงทุน

Graham ได้แบ่งการลงทุนออกเป็นสองประเภทหลักๆ คือ การลงทุนแบบเชิงรุก (Active Investing) และการลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Investing) การลงทุนแบบเชิงรุกนั้นเป็นการที่นักลงทุนพยายามที่จะชนะตลาดโดยการซื้อขายหุ้นอย่างต่อเนื่องและพยายามหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ในขณะที่การลงทุนแบบเชิงรับคือการลงทุนในกองทุนรวมที่ติดตามดัชนีตลาดและไม่พยายามชนะตลาด

การลงทุนแบบเชิงรุกและการลงทุนแบบเชิงรับ

Graham ได้เน้นความสำคัญของการเลือกแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง นักลงทุนที่มีความสามารถและความรู้ในการวิเคราะห์หุ้นสามารถเลือกการลงทุนแบบเชิงรุกได้ แต่สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ไม่มีเวลาหรือความรู้เพียงพอ ควรเลือกการลงทุนแบบเชิงรับซึ่งมีความปลอดภัยและเสี่ยงน้อยกว่า

มูลค่าที่แท้จริงและความปลอดภัยของเงินทุน

หนึ่งในแนวคิดที่สำคัญที่สุดในหนังสือ The Intelligent Investor คือมูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value) และความปลอดภัยของเงินทุน (Margin of Safety) มูลค่าที่แท้จริงคือมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทที่นักลงทุนสามารถประเมินได้จากปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ในขณะที่ความปลอดภัยของเงินทุนคือการซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การวิเคราะห์หุ้นและการวิเคราะห์บริษัท

Graham ได้แนะนำวิธีการวิเคราะห์หุ้นและการวิเคราะห์บริษัทที่มีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรทำการวิเคราะห์งบการเงิน ประวัติการดำเนินงาน และสถานะการเงินของบริษัทเพื่อประเมินความแข็งแกร่งและความมั่นคงของบริษัทนั้นๆ นอกจากนี้ Graham ยังเน้นความสำคัญของการเลือกหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงและมีความปลอดภัยของเงินทุนสูง

ความสำคัญของการจัดสรรพอร์ตการลงทุน

การจัดสรรพอร์ตการลงทุนเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญในหนังสือ The Intelligent Investor Graham ได้แนะนำให้นักลงทุนจัดสรรเงินลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ โดยแบ่งเงินลงทุนออกเป็นส่วนต่างๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

บทสรุปของ The Intelligent Investor

หนังสือ The Intelligent Investor ของ Benjamin Graham เป็นหนังสือที่ควรอ่านสำหรับนักลงทุนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์ Graham ได้แนะนำแนวทางการลงทุนที่เน้นความปลอดภัยและความมั่นคงของเงินทุน พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการเลือกหุ้นและการจัดสรรพอร์ตการลงทุนอย่างรอบคอบ การนำหลักการและกลยุทธ์ที่ Graham แนะนำมาใช้อย่างถูกต้องจะช่วยให้นักลงทุนสามารถประสบความสำเร็จในระยะยาว

อ่านเพิ่มเติม สรุปหนังสือ The Power of When พลังแห่งเวลา โดย ไมเคิล บรูส

FAQs

1. Benjamin Graham คือใคร?
Benjamin Graham เป็นนักลงทุนและนักคิดค้นทฤษฎีการลงทุนที่มีชื่อเสียง เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะบิดาแห่งการลงทุนแบบ Value Investing

2. หนังสือ The Intelligent Investor เกี่ยวกับอะไร?
The Intelligent Investor เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุนที่เน้นความปลอดภัยและความมั่นคงของเงินทุน Graham ได้แนะนำแนวทางการลงทุนที่สามารถช่วยให้นักลงทุนประสบความสำเร็จในระยะยาว

3. มูลค่าที่แท้จริงคืออะไร?
มูลค่าที่แท้จริงคือมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทที่นักลงทุนสามารถประเมินได้จากปัจจัยพื้นฐานต่างๆ

4. การลงทุนแบบเชิงรุกและการลงทุนแบบเชิงรับต่างกันอย่างไร?
การลงทุนแบบเชิงรุกเป็นการพยายามที่จะชนะตลาดโดยการซื้อขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การลงทุนแบบเชิงรับคือการลงทุนในกองทุนรวมที่ติดตามดัชนีตลาดและไม่พยายามชนะตลาด

5. การจัดสรรพอร์ตการลงทุนสำคัญอย่างไร?
การจัดสรรพอร์ตการลงทุนช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว นักลงทุนควรจัดสรรเงินลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้

---

อ้างอิงจาก

https://www.finnomena.com/fiftytwohurtz/the-intelligent-investor/