สรุปหนังสือ Everything is Fucked คู่มือแห่งความหวังในโลกสุดเฮงซวย

หนังสือ “Everything Is Fucked: A Book About Hope” เขียนโดย Mark Manson เป็นหนังสือที่เน้นสำรวจและวิเคราะห์ความหวังในยุคที่ทุกอย่างดูเหมือนจะไร้ความหมาย ผู้เขียนซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานก่อนหน้านี้อย่าง “The Subtle Art of Not Giving a Fuck” ใช้ทักษะการเขียนที่ตรงไปตรงมาและเต็มไปด้วยความจริงจังในการสำรวจประเด็นที่ซับซ้อนของชีวิตในยุคปัจจุบัน

เราจะทำอย่างไรให้ชีวิตก้าวหน้าและสงบสุขท่ามกลางความเฮงซวยนี้ อ่านได้จากหนังสือ “คู่มือแห่งความหวังในโลกสุดเฮงซวย”

สรุปข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้

• 1. ถ้าเราไม่มีความหวังว่าอนาคตจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน ถ้าเราไม่เชื่อว่าชีวิตของเราจะดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เราจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร? และทำสิ่งต่างๆไปเพื่ออะไร?
• 2. ถ้าคุณโกรธหรือเศร้าแสดงว่าคุณยังแคร์อะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งแปลว่า ยังมีอะไรบางอย่างที่ยังมีความหมาย และคุณยังคงมีความหวังอยู่ คนเราสร้างความหวังขึ้นมาเพื่อหนีจากความอ้างว้างของชีวิต
• 3. ความไร้ความหวัง คือบ่อเกิดของความวิตกกังวล อาการป่วยทางจิต ภาวะซึมเศร้าและการเสพติดทุกรูปแบบ
• 4. นิทานแห่ง”ความหวัง”คือสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเรามีเป้าหมายขึ้นมาว่าเราจะมีอนาคตที่ดีขึ้น และ จงไขว่คว้าหามัน แต่จุดที่ยากคือการหาเรื่องราวชีวิตให้กับตัวคุณเองเพราะคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าชีวิตของคุณเดินมาถูกทางหรือไม่
• 5. การสร้างและรักษาความหวังเอาไว้จำเป็นต้องมี 3 สิ่งด้วยกันนั่นคือ -การควบคุมหมายถึง เรารู้สึกเหมือนกับเราควบคุมชีวิตของเราเองได้และเรากำหนดโชคชะตาของเราได้
  -ค่านิยม หมายถึงการที่เราค้นหาอะไรสักอย่างที่สำคัญพอให้เราพยายามเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา อะไรสักอย่างที่ดีขึ้น อะไรสักอย่างที่ควรค่าแก่ความพยายาม
  -สังคมหมายถึง การที่เราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่มีค่านิยมในสิ่งเดียวกันกับเราและพยายามที่จะไขว่คว้าสิ่งเหล่านั้นมาให้ได้
• 6. ถ้าไม่มีสังคมเราจะรู้สึกโดดเดี่ยวและค่านิยมของเราจะหมดความหมายลง ถ้าไม่มีค่านิยมก็เท่ากับไม่มีอะไรให้ตามหาและไขว่คว้าและถ้าไม่มีการควบคุมเราย่อมรู้สึกไร้พลังในการไขว่คว้าหาอะไรก็ตาม ดังนั้น ถ้าคุณขาดสิ่งหนึ่ง จาก 3 สิ่งคุณก็จะสูญเสียสิ่งที่เหลือไปด้วยแล้วคุณก็จะสูญเสียความหวังไป
• 7.กฎทางอารมณ์ 3 ข้อ ของนิวตัน
  – กฎทางอารมณ์ข้อที่ 1 ทุกการกระทำย่อมเกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์ในระดับที่เท่ากัน แต่ทิศตรงกันข้าม
  -กฎทางอารมณ์ข้อที่ 2 ของนิวตัน ค่านิยมคือผลรวมของอารมณ์ของเรา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
  – กฎทางอารมณ์ข้อที่ 3 ของนิวตัน คุณจะเป็นคนเดิมอยู่จนกว่าจะได้พบประสบการณ์ใหม่ที่ขัดแย้งกับตัวตนเดิม
• 8. ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองนั่นคือการเปลี่ยนจากค่านิยมเก่าที่ไม่ถูกต้องเป็นค่านิยมใหม่ที่ถูกต้องกว่าและดีกว่า คุณมี 2 วิธี
  -มองย้อนกลับไปพิจารณาอดีตและเขียนนิทานเรื่องใหม่เกี่ยวกับประสบการณ์นั้นๆขึ้นมา
  -เริ่มเขียนนิทานเกี่ยวกับตัวเองในอนาคต
• 8. ศักยภาพของแต่ละบุคคลมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด มนุษย์แต่ละคนนอกจากจะสมควรได้รับโอกาสในการเพิ่มศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่แล้วยังเป็นหน้าที่ของคนคนนั้นในการฝึกฝนและผลักดันตัวเองให้มีศักยภาพสูงสุด
• 9. คนเรามีชีวิตเพื่อความหวัง และการที่จะมีความหวังนั้นคนเราจำเป็นต้อง
  -มองเห็นภาพอนาคตที่ดีขึ้น
  -เชื่อในตัวเองว่าเราควบคุมโชคชะตาได้มากเพียงพอที่จะไปให้ถึงอนาคตนั้น
  -มีสังคมที่จะร่วมกับเราในการเดินไปให้ถึงอนาคตนั้น
• 10. ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริงคุณจะต้องมองไปไกลกว่าความหวัง คำตอบก็คือ “อะมอร์ฟาติ”(Amor Fati) ซึ่งเป็นภาษาละตินที่แปลว่า”จงรักชะตาชีวิตของคุณ”
• 11.”อะมอร์ฟาติ” คือการยอมรับทุกสิ่งที่เราพบเจอในชีวิตโดยปราศจากเงื่อนไขทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว ดีและไม่ดี ทุกข์และสุข มีสาระและไร้สาระ มันคือการที่คุณเติมเต็มความปรารถนาไม่ใช่ด้วยการแสวงหาสิ่งใหม่ แต่ด้วยการยอมรับในสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว นั่นคือใช้ชีวิตให้เต็มที่โดยยอมรับข้อบกพร่องของคุณ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และอย่าเพิ่งหวังสิ่งที่คุณยังไม่มีหรือยังมาไม่ถึง
• 12. ไม่ว่าชีวิตจะดีจะร้ายแค่ไหนก็ตาม มนุษย์ยังคงใช้ชีวิตโดยที่มี”ความสุขปานกลางแต่ก็ไม่ได้เต็มที่” เพราะ “ทันทีที่ชีวิตของคุณ”ดีขึ้น”ความคาดหวังของคุณก็จะขยับหนีห่างออกไปอีก แล้วคุณก็จะกลับมายังจุดแห่งความไม่พอใจเล็กๆเหมือนเดิมอีกครั้ง
• 13. อย่าปฏิบัติไม่ดีต่อคนอื่น ไม่ว่าจะตนเองหรือผู้อื่นในฐานะของบันไดไปสู่เป้าหมายแต่ในฐานะของเป้าหมาย
  -บันไดคือสิ่งที่เราทำโดยมีเงื่อนไขมีข้อต่อรอง
  -เป้าหมายคือสิ่งที่เราอยากได้และเป็นแรงจูงใจที่กำหนดการตัดสินใจอื่นของเรา
• 14.ชีวิตของคุณจะง่ายและมีความสุขกว่ามาก ถ้าคุณแค่พัฒนาตัวเองให้เติบโตในทุกวันและปฏิบัติกับผู้อื่นเป็นเป้าหมาย ไม่ใช่ขั้นบันไดลองใช้ชีวิตโดยไม่ต้องหวังถึงอนาคตที่ดีหรือแย่แต่ใช้ชีวิตกับการตัดสินใจสิ่งเล็กๆให้ดีที่สุดในทุกวัน อย่าหวังถึงชีวิตที่ดีขึ้นแต่ใช้ชีวิตให้ดีขึ้น
• 15. ปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่เรามีต่อปัญหานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของปัญหาแต่เป็นจิตใจของเราเองที่ขยาย (หรือลด)ความรุนแรงของปัญหาให้ตรงกับระดับความเครียดที่เราคาดว่าจะต้องเจอ

แนวคิดของความหวัง

Manson เริ่มต้นด้วยการสำรวจแนวคิดของความหวัง เขาอธิบายว่าความหวังเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการเพื่อให้มีแรงจูงใจและเป้าหมายในชีวิต แต่ในยุคที่ทุกสิ่งดูเหมือนจะเลวร้าย ความหวังนั้นก็อาจถูกทำลายได้ง่าย ๆ เขาเน้นว่าการมีความหวังที่แท้จริงนั้นมาจากการยอมรับความจริงและความเจ็บปวดในชีวิต

จิตวิทยาของความเจ็บปวด

ในบทนี้ Manson อธิบายว่าความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การที่เราสามารถยอมรับและเข้าใจความเจ็บปวดจะทำให้เรามีความแข็งแกร่งและมีความหวังที่แท้จริง เขาใช้ทฤษฎีจิตวิทยาในการสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยชี้ให้เห็นว่าความเจ็บปวดสามารถเป็นแรงจูงใจให้เรามีความหวังและเป้าหมายในชีวิตได้

ความหวังและศีลธรรม

Manson พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างความหวังและศีลธรรม เขาเชื่อว่าความหวังที่แท้จริงนั้นมาจากการที่เรามีศีลธรรมและค่านิยมที่ชัดเจน การมีค่านิยมที่มั่นคงจะทำให้เรามีแรงจูงใจในการทำสิ่งที่ถูกต้องและมีความหวังที่ยั่งยืน

ปรัชญาของชีวิตที่ดี

ในบทนี้ Manson ได้สำรวจปรัชญาของชีวิตที่ดี โดยเน้นที่การมีความหวังและการยอมรับความจริง เขาเชื่อว่าชีวิตที่ดีนั้นไม่ได้มาจากการมีความสุขตลอดเวลา แต่จากการที่เราสามารถยอมรับความเจ็บปวดและความไม่แน่นอนในชีวิตได้

การรับมือกับความไม่แน่นอน

Manson แนะนำวิธีการรับมือกับความไม่แน่นอนในชีวิต เขาเชื่อว่าการที่เราสามารถยอมรับและเข้าใจความไม่แน่นอนจะทำให้เรามีความแข็งแกร่งและมีความหวังที่ยั่งยืน เขาเสนอแนวทางในการสร้างความมั่นใจในตนเองและการเผชิญกับความท้าทาย

ความสำคัญของความซื่อสัตย์ต่อตนเอง

Manson เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง การที่เราสามารถยอมรับความรู้สึกและความคิดที่แท้จริงของตัวเอง จะทำให้เรามีความหวังที่แท้จริงและมีชีวิตที่มีความหมาย

ลองอ่านเพิ่มเติม: สรุปหนังสือ THE NEW RULES OF WORK กฏใหม่ในโลกแห่งการทำงาน

บทสรุปและข้อคิดสำคัญ

ในบทสรุป Manson ได้สรุปแนวคิดและข้อคิดสำคัญที่นำเสนอในหนังสือ เขาเน้นย้ำว่าการมีความหวังที่แท้จริงนั้นมาจากการยอมรับความเจ็บปวดและความไม่แน่นอนในชีวิต และการมีค่านิยมและศีลธรรมที่มั่นคงจะทำให้เรามีความหวังที่ยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. หนังสือ Everything Is Fีcked เกี่ยวกับอะไร?
หนังสือสำรวจแนวคิดของความหวังและการยอมรับความจริงในชีวิตที่ไม่มีความหมาย

2. Mark Manson มีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับความหวัง?
เขาเชื่อว่าความหวังเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการเพื่อมีแรงจูงใจในชีวิต แต่ความหวังที่แท้จริงต้องมาจากการยอมรับความเจ็บปวดและความไม่แน่นอน

3. ความเจ็บปวดมีบทบาทอย่างไรในชีวิต?
ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การยอมรับและเข้าใจความเจ็บปวดจะทำให้เรามีความแข็งแกร่งและมีความหวังที่แท้จริง

4. ศีลธรรมมีความสำคัญอย่างไรต่อความหวัง?
การมีศีลธรรมและค่านิยมที่มั่นคงจะทำให้เรามีแรงจูงใจในการทำสิ่งที่ถูกต้องและมีความหวังที่ยั่งยืน

5. หนังสือแนะนำวิธีการรับมือกับความไม่แน่นอนอย่างไร?
Manson แนะนำให้เรายอมรับและเข้าใจความไม่แน่นอน เพื่อสร้างความมั่นใจในตนเองและการเผชิญกับความท้าทาย

อ้างอิงจาก

https://medium.com/@satokasotome/book-review-everything-is-fucked-5a2e7aa1bda8

สนใจซื้อหนังสือได้ที่: